Lovelydimple25

สวัสดีค่ะเพื่อนๆ

สุขสันต์วันอาทิตย์นะคะ สาวๆ วันนี้เรามาหาชุดใส่ไปเทีียวกันดีมั้ย ไม่ว่าจะไปนั่งจิบชา ดูหนังฟังเพลง หรือเดินเล่นชิลๆ ติ๊กมีไอเดียในการเลือกเสื้อ ที่ตอนนี้กำลังเป็นที่นิยมมาก และเป็นอะไรที่ดูคุณหนูและหวานสุดๆ คุณมาถูกทางแล้วค่ะกับเสื้อแบบนี้ ที่มีแขนพองๆ



เสื้อแบบนี้นั้น เหมาะกับสาวไหล่แคบ หรือเรียกว่าไม่มีไหล่เลย แต่อาจไม่เหมาะกับสาวนักว่ายน้ำ      ซักเท่าไหร่ ส่วนต้นแขนนั้น...สาวต้นแขนใหญ่ กลับกลายเป็นตัวช่วยที่เริ่ดมาก เพราะช่วยอำพราง
ต้นแขนอันคล้ายท่อนซุงได้ดีมาก แต่ที่ดีกว่านั้น สาวผอมต้นแขนเล็กก็ยังช่วยเพิ่ม Volume ให้แขนดูมีเนื้อมีหนังขึ้นมาบ้าง

การ Mix & Match 

ทำได้หลากหลาย แต่แนะนำให้ท่อนล่างเป็นแบบเรียบ เช่นกางเกงยีน ขายาว กางเกงขาสั้น หรืออะไรก็ได้ที่ไม่เป็นแบบฟู่ฟ่า ลีลามากนัก เพราะด้านบนก็มากพอแล้วนะจ๊ะ แต่ถ้าเป็นโอกาสสำคัญ เช่น
ไปงานแต่ง งานปาร์ตี้ อันนี้อนุโลมให้ใส่กระโปรงบานชีฟอง สีพาสเทลแบบที่เข้ากันได้ หรืออยากจะเก๋ด้วยเครื่องประดับน่ารักๆซักชิ้น เพื่อให้ชุดดูมีอะไรที่ไม่โหล ก็ไม่ผิดกติกานะคะ

ลองไปปรับใช้ดู จะได้เป็นสาว trendy ที่มี Style โดดเด่นเป็นของตัวเอง

Credit  Pic :
http://www.testerfever.net/content/image/product-20140124-044508.jpg

สวัสดีค่ะเพื่อนๆ

          เนื่องด้วยช่วงนี้ อิชั้นเห็นว่ากระโปรงทรงนี้ มีขายดาษดื่นทั่วไปตามท้องตลาด ไม่ว่าจะย่าน
แพลตินัมหรือสยาม แสดงว่ามันต้องกำลังฮิตในหมู่สาวๆเป็นแน่ แต่ดูจากทรงแล้ว ถามว่าใส่ยากมั้ย เห็นครั้งแรกก็ตอบได้คำเดียวเลยว่า ยากส์ มากจริงๆค่ะ เพราะมันเสี่ยงกับการเป็นคุณป้าหรือคุณย่ามาก ถ้าหากเลือกไม่ดีและไม่เข้ากับรูปร่างของตัวเอง

Midi Skirt คือกระโปรงที่ไม่สั้นมากเหมือน Mini Skirt แต่ก็ไม่ได้ยาวลากพื้นคลุมตาตุ่มเหมือน Maxi Dress ความยาวจะอยู่ระหว่างตั้งแต่คลุมเข่าไปจนถึง 3 ใน 4 ของขาท่อนล่าง แนวจะดู Wintage ย้อน
ยุคหวานๆนิด เอาล่ะ เราได้เข้ราใจความหมายและลักษณะของกระโปรงแบบนี้แล้ว

เพราะฉะนั้น ติ๊กจึงขอรีบมาส่งสารให้กับเพื่อนๆก่อนที่ทุกอย่างมันจะสายเกินไป มาดูกันดีกว่า ว่าวิธีการเลือกกระโปรงทรง Midi Skirt นั้น เลือกยังไงจึงจะใส่ออกมาแล้วสวย ........

หากคุณเป็นสาวอวบ ตัน อ้วน เตี้ย

อันนี้ขอรวมเป็นกรณีเดียวไปเลยนะ สาวกลุ่มนี้ ควรเลือกความยาวของกระโปรงเพียงแค่คลุมเข่าเท่านั้น ห้ามยาวลงมาถึงครึ่งหน้าแข้ง เพราะมันจะยิ่งทำให้คุณดูเตี้ยตันไปกันใหญ่ สาวเตี้ยแต่ไม่อ้วน อาจใส่สีอ่อนหรือสีสดใสได้ และเพิ่มความเพรียวด้วยส้นสูงแหลม หากแต่สาวสะโพกบานควรเลือกแบบจีบเล็กน้อยหรือไม่มีจีบเลย เพื่อไม่เป็นการเพิ่มความกว้างของสะโพก และเป็นกระโปรงสีเข้มแบบเรียบ ส่วนเสื้อนั้น ไม่ต้องเน้นดีเทลเยอะ ขอแบบเรียบไม่หลวม ไม่พอง มิเช่นนั้น คุณจะดูบวมไปทั้งตัว

หากคุณเป็นสาวผอมสูง หุ่นนางแบบ

สาวกลุ่มนี้ สามารถความยาวของกระโปรงถึงคลุมหนาแข้งหรือยาวกว่านั้นได้เลยค่ะ รองเท้าส้นแบนใส่ได้ไม่ผิดกติกา แต่สิ่งที่ห้ามคืออย่าใส่แบบที่เป็นผ้าชีฟอง บางเบา แนบลำตัวมากเกินไป มันจะยิ่งทำให้คุณดูผอมและขี้ก้างจนเกิ๊น ให้เลือกใส่กระโปรงแบบที่มีทรงจีบรอบสะโพก ค่อนข้างเป็นทรงแข็งๆนิดๆ สีสดจัดจ้านได้เต็มที่ จะลายอะไรก็ลายไป  ส่วท่อนบนก็ควรจะเป็นแบบเรียบเช่นเดียวกันค่ะ

เพื่อนๆคะ

เคยมั้ยที่อยากใส่ลายสก็อต แต่กลัวเพื่อนล้อ ว่าไปตัดอ้อยมาเหรอ เออ จริง มันเป็นอะไรที่ก้ำกึ่งกันมาก กับคำว่าแพงและเห่ย เชย หรือดูราคาถูก คำอธิบายไม่มี มีแต่ตัวอย่างมาให้ดู แล้วเพื่อนๆจะค่อยๆ get จากภาพนะ ไปดูตัวอย่างกัน

http://file.vintageadbrowser.com/jo35nm39r3k1b9.jpg

http://www.fashionica.com/wp-content/uploads/2010/04/6392009.jpg

http://www.menocean.com/uploads/blog/plaid_fashion.jpg

สวัสดีค่ะเพื่อนๆ

          วันก่อนมีสาวอวบนางหนึ่ง มาบ่นว่ากลุ้มใจมากกก ลดความอ้วนไม่รู้จะกี่วิธี ก็ไม่เห็นว่าเจ้าน้ำหนักเนี่ย จะลดลงไปแม้แต่ขีดเดียวเลย เลยมาขอคำแนะนำ วิธีการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าแก้ขัดไปก่อน ระหว่างที่รอน้ำหนักลด เอาเป็นว่า ระหว่างนี้ ติ๊กมีตัวช่วย ด้วยการแต่งตัว และจัดรูปร่างให้เข้ารูปกันด้วย
กระโปรงทรงดินสอกัน พร้อมแล้ว ไปกันเลย

กรณีที่ 1  คุณไม่ได้อ้วนมาก แต่มีปัญหาเฉพาะท่อนล่างคือ ต้นขา สะโพกใหญ่ ย้อย ย้วย ก็ยังพอที่จะใส่ กระโปรงทรงดินสอสีสด เพื่อไม่ให้ดูเป็นครูไหวใจร้ายมากเกินไปได้ ถ้ามั่นมาก็จัดสีแดงไปเลย
 มิกซ์กับเสื้อสีเรียบ สวยอ่ะ  Look นี้ชอบๆ



หากแต่คุณอวบ เกินระยะสุดท้าย หรือเรียกว่า อ้วนไปแล้ว (ไม่ได้พูดให้แสลงใจนะ) สีดำ คงเป็นตัวช่วยที่ดีที่สุดจริงๆ

สวัสดีค่ะเพื่อนๆ 

              ก่อนอื่นต้องขอบอกก่อนเลยว่า คิดอยู่นานเหมือนกัน กว่าจะติ๊กเขียนหัวข้อนี้ได้ เพราะกลัวว่าจะเป็นการสนับสนุน ให้ัเพื่อนๆไปทำศัลยกรรมกัน แต่คิดไปคิดมา บางทีมันก็อาจจะเป็นประโยชน์บ้างไ่ม่มากก็น้อย เพื่อประกอบการตัดสินใจ และปัจจุบันเรื่องการศัลยกรรมยังเป็นเรื่องใกล้ตัว ทีีใครๆก็สามารถทำได้ ตราบใดที่เราไม่ได้ทำให้ใครเดิอดร้อนและไม่ได้ไปขโมยตังค์ใคร  แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น คงต้องขึ้นอยู่บนพื้นฐานของคำว่า ความพอดี มิใช่ทำแล้วทำอีก จนเป็นการเสพติดศัลยกรรมไปนะคะ สาวๆ

แหมเกริ่นมาซะยาว เข้าเรื่องกันเลยดีกว่า 

              ต้องบอกว่า ติ๊กเป็นคนที่ค่อนข้าง anti การศัลยกรรม ค่อนข้างมาก และไม่เคยศัลยกรรมมาก่อนในชีวิต เป็นคนไม่กลัวเข็ม จึงไม่ได้กลัวการทำสวย แต่ที่ไม่ชอบเพราะหลายๆครั้งเห็นคนที่ไปทำเพื่อหวังที่จะให้ออกมาสวย แต่กลับดูแย่ลงกว่าเดิม และกลับมาคิดว่า ถ้าตัวเองตกอยู่ในสถานการณ์เยี่ยงนั้น ตู ขอยอมตายดีกว่า !!!!!!!!!!!!!!!!!! แถมยังเป็นคนที่ยึดหลักความพอเพียง พอใจในสิ่งที่ตนเองมีอยู่ ยกเว้นอย่างเดียว เจ้าถุงใต้ตานี่แหละ เพราะติ๊กทำงานที่ต้องใช้หนังหน้าและความสวยความงาม หน้าตาต้องมาอันดับแรก ลูกค้ามักทักเสมอว่า นอนดึกบ้าง ร้องไห้มาบ้าง นอนมากไปบ้าง เลยตาบวม ทักตูทุกวัน จนไม่อยากจะไปเจอหน้าใครแว๊ววว TT และนี่คือเหตุผล ที่ตกลงปลงใจ นครั้งนี้

              กว่าที่จะตัดสินใจตัดถุงใต้ตา review หาข้อมูลมามากกว่า 5 ปี++ สุดท้ายก็ได้ข้อมูลจาก Pantip ว่าคุณหมอท่านหนึ่ง แห่งคลีนิคหงส์ ณ สยาม (ขอไม่เอ่ยชื่อตรงๆ) เค้าเคลมกันว่าทำดีที่สุด สวยที่สุดและเจ็บน้อยที่สุด จึงยอมตกลงจ่ายค่าทำสวยเป็นเงิน 20,000 บาท และเตรียมลางาน 1 สัปดาห์ สิ่งที่กังวลคือตัวเองเป็นคนน้ำเหลืองไม่ดี กลัวแผลหายช้า กลัวภาวะแทรกซ้อนต่างๆ ที่สำคัญเคยได้รับข้อมูลมาว่าถ้าคุณหมอไม่เจ๋งจริงและตัดไขมันส่วนเกินออกมามากเกินไป จะทำให้ตาล่างถลน ฮะ อะไรนะ ถลนแบบ เหมือนผีไปตลอดชีวิตอ่ะนะ ม่ายอาวนะ please

          ก่อนผ่าตัด 1 วันเลยเอาธรรมะเข้าข่มด้วยการซื้อดอกไม้ประดิษฐ์ 1 คู่ไปถวาย วางไว้หน้าพระประธาน ทางธรรมะบอกว่า คนที่เกิดมาสวยเพราะการศัลยกรรม ชาติก่อนเคยทำบุญด้วยการถวายดอกไม้ประดิษฐ์ เอาวะ อย่างน้อยก็เป็นผลทางใจ สาธุ ขอให้ลูกทำออกมาสวยด้วยเถิด....

        และแล้วก็ถึงวันนัด ซึ่งก่อนหน้านั้นได้มีการส่งรูปให้คุณหมอวิเคราะห์ทางเมล ก่อน 1 รอบ และเข้าไปปรึกษากับคุณหมอ อีก 1 รอบ โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น คุณหมอใจดีมากและไม่ Hard Sale แต่แค่แนะนำว่า เราเป็นคนที่มีร่องนำ้ตาด้วย ถ้าจะให้ perfect แนะให้ filler ด้วย แต่เราไม่เอาเพราะเคยได้รับข้อมูลมาว่า Filler ที่เสี่ยงที่สุดในร่างกายและอันตรายโคตรๆ ก็คือบริเวณร่องน้ำตา เพราะมีความเสี่ยงทำให้ตาบอดได้ (ยังคง concept สวยแบบพอเพียง) ดุรูปปลากรอบ


เราไปถึง คลีนิค 16.00 หมอนัดผ่าตัด 17.00 แต่มาเตรียมตัวเตรียมใจก่อน อารมร์นั้นไม่ค่อยตื่นเต้นและกลัวเท่าไหร่ ไปคนเดียวด้วย ชิลมากอ่ะ ใส่แว่นไปเพราะต้องหยุดใส่คอนแทคเลนส์อย่างต่ำ 1 สัปดาห์ คุณหมอเรียกมาคุยก่อนการผ่าตัด หลังจากนั้นพยาบาลก็เรียกไปล้างหน้า คลุมผมและใส่ชุดคลุม เปลี่ยนรองเท้าเข้าสู่ห้องผ่าตัด ตื่นเต้นนิดๆแต่ก็ไม่มาก หลังจากนั้นก็ขึ้นเขียง มีไฟ 4 จุดบนฐานกลมๆส่องมาที่หน้า บรรยากาสค่อยเหมือนห้องผ่าตัดหน่อยนิ หมอฉีดยาสลบแบบอ่อนๆให้ที่หลังมือ หลังจากนั้น ก็รู้สึกนิดๆว่ามีคนมาทำอะไรที่เปลือกตา ประมาณ 2-3 วินาทีแล้วก็... จำอะไรไม่ได้อีกเลย มารู้ตัวอีกที พยาบาลบอกให้ย้ายเตียงไปนอนพัก เพื่อให้หายง่วง อีกประมาณ 15 นาที ก็ให้เรากลับบ้านได้ อะไรนะ เสร็จแล้วเหรอประมาณ 18.00 น.ไวมากกกกก อะไรฟะเนี่ย บอกกับตัวเองว่า รู้งี้ตัดสินใจทำไปนานละ พอนั่งรถกลับก็มีอาการปวดๆมึนๆหัวนิดๆ เลยกินพาราแล้วก็นอนไป ดูรูปสดๆหลังจากผ่าตัดกันก่อน

หลังจากผ่าตัด มีแดงบ้างใต้ตาซ้าย

วันที่ 2 เริ่มบวมเล็กน้อยมาก

วันที่ 3 บวมสุด แต่น้อยกว่าที่คิำดไว้เยอะ

วันที่ 4 เป็นรอยเหลือง บวมน้อยลงเยอะ ส่วนวันที่ 5 หายเป็นปกติ และไม่มีรอยอะไรให้เห็น ดังรูปแรกด้านบนสุดเลยจ้า สรุป ความพอใจในการตัดถุงใต้าตาครั้งนี้ ให้เต็ม 10 เพราะไม่เจ็บและสวยได้อย่างที่ตั้งใจ              ส่วนเจ้าร่องน้ำตานั้น ติ๊กใช้วิธี Highlight อำพรางเอา ถึงแม้จะช่วยได้ไม่เต้มร้อย แต่ก็ดูสวยแบบเป็นธรรมชาติ แบบพอมีจุดบกพร่องบ้างค่ะ สุดท้าย ก็อยากให้เพื่อนๆทุกคน ลองไปคิดทบทวนดูดีๆก่อนที่จะตัดสินใจ ศัลยกรรมนะคะ เพราะหลายคนก็มีปัจจัยหลายอย่าง ที่อาจทำให้เกิดผลเสีย                  จากการศัลยกรรมได้ ไม่ใช่ว่าทุกคนจะโชคดีแบบติ๊กเสมอไป ใช้เวลาหาข้อมูลและตัดสินใจให้ดี    และนานที่สุดเท่าที่จะทำได้ คิดเปรียบเทียบผลดีผลเสียที่จะตามมา                                        หากเราไม่ได้ทำอาชีพที่ต้องใช้ความสวยความงาม ใช้หน้าตาเป็นผลลัพธ์ หรือไม่ได้กระทบการดำเนินชีวิตของเรามากนัก การใช้มีดหมอ อาจเป็นทางเลือกสุดท้าย ที่เราอาจไม่จำเป็นต้องเลือก เพราะสุดท้าย ทุกอย่างย่อมต้องหย่อนยานไปตามกาลเวลา  ความมั่นใจในตัวเองคือสิ่งที่สำคัญที่สุด เพราะผู้หญิงเริ่ดๆแบบคุณ มีคนเดียวในโลกนะคะ Tiktok : Lovelydimple25

Things Every Woman Must Have : สิ่งที่ 2

ติ๊กไม่ได้ทะลึ่งนะ แต่นี่อ่ะจะสื่อว่า ชั้นในสีเนื้อมีความหมาย ไม่ว่าจะเป็นเสื้อชั้นใน เสื้อซับใน กระโปรงซับใน กางเกงขาสั้นแนบเนื้อสีเนื่อ มันจะช่วยให้ชุดที่คุณใส่ดูเนี้ยบ ไม่เฉพาะกับชุดที่เป็นซีทรูเท่านั้น อย่างน้อยมันจะช่วยให้คุณดูดีขึ้น ยิ่งท่อนล่างด้วยแล้ว เกิดอุบัติเหตุลมพัดกระโปรงเปิดขึ้นมา จะได้ไม่ขายหน้าคุณหนุ่มๆเค้า ขอร้องละ จัดไปอย่าให้เสียฟอร์ม

Things Every Woman Must Have : สิ่งที่ 1

ตุ้มหูเพชร ติ๊กไม่ได้บอกว่าจะต้องเป็นเพชรจริง หนักกว่า 10 กะรัตซะหน่อย แค่คุณลองหาแบบที่มันดูคล้ายเพชร ที่มีประกายแวววาว ขนาดไม่ใหญ่มาก ติดหูไว้จะช่วยให้คุณดูดีมีชาติตระกูลขึ้นมากระทันหัน แถมยังช่วยให้ดูหน้าขาวสว่างกระจ่างสดใส โดยไม่ต้องพึ่ง Whitening แต่อย่างใด และไม่ว่่าคุณจะใ่ส่ชุดแนวไหน หวาน เปรี้ยว เท่ห์ ซ่า ก๋ากั่น

 ไปงานหมั้น งานแต่ง งานหรู หรืองานติดดิน เจ้าตุ้มหูแนวนี้ ก็พร้อมที่จะไปกับคุณได้ทุกสถานการณ์ แบบไม่หวั่น...ว่าแล้ว อย่าลืมมีไว้บนโต๊ะเครื่องแป้งกันนะคะ

Trend อันดับ 4 ที่ติ๊กจะมา update เพื่อให้คุณ เป็นสาว Trendy กัน ไม่มีไม่ได้แล้ว

ลายขาวดำ แบบผสม มาแรงส์

ใครเหมาะกับแฟชั่นนี้ ?

คำตอบคือ ขึ้นอยู่กับว่าเป็นลายแบบไหน...
ลายทางยาว ก็ต้องสาวอวบ
ลายขวาง เหมาะกับสาวผอม
ลายจุด จะขาวจุดดำหรือดำจุดขาว เลือกตามสบาย
ลายแทยง ก็เก๋ไปอีกแบบ
แต่ที่สำคัญที่เปลี่ยนแปลงจากปี 2013 คือจะต้องนำแต่ละแบบมาผสมกัน หลักการ
ไม่มีนะคะ เลือกตามสบาย แต่อย่าใส่ซ้ำบ่อยเกิ๊น เดี๋ยวเพื่อนที่ office จำได้ 

Trend อันดับ 3 ที่ติ๊กจะมา update เพื่อให้คุณ เป็นสาว Trendy กัน ได้แก่ 

วินเทจ วินเทจ

ใครเหมาะกับแฟชั่นนี้ ?

คำตอบคือ ทุกคนอีกแล้วครับท่าน วิธีประหยัด (อีกแล้ว) ลองไปหาชุดของคุณแม่คุณดูมั้ย บางที่ชุดสมัยท่านยังสาว อาจเป็นชุดที่กลับมาฮิตและใส่กันเกลื่อนก็เป็นได้ เลือกสีที่คุณชอบ เพราะเราไม่อยากมีหลักการตายตัวมากนัก ลายกราฟฟิกเด่นๆมองเห็นแต่ไกล ถ้านึกไม่ออก ก็ลองหาชุดที่ใส่แล้วดูคล้ายทองกวาวนั่นแหละใช่ สาวผอมสะโพกเล็กก็เน้นกระโปรงจีบรอบตัวบานๆ สาวสะโพกใหญ่ก็ใส่แบบทรงตรงทรงสอบ อย่าลืมเข็มขัดเก๋ๆเพื่อสร้างภาพว่าหุ่นชั้นน่ะ นาฬิกาทรายนะยะ 
ขอตัวไปค้นตู้เสื้อผ้าคุณแม่ก่อน เผื่อได้ชุดใหม่แบบไม่ต้องเสียตังค์ 

Trend อันดับ 2 ที่ติ๊กจะมา update เพื่อให้คุณ เป็นสาว Trendy กัน ได้แก่ 

ชุดสีเขียวทหาร ที่ไม่ใช่ลายทหาร

ใครเหมาะกับแฟชั่นนี้ ?

คำตอบคือ ทุกคนล่ะนะ เพียงแต่การเืลือกจับนู่นผสมนี่ต่างหาก ที่จะช่วยให้คุณดูสวยมากยิ่งขึ้น ลองใส่กับกระโปรงแบบหรู มีเลื่อม กระโปรงสั้นเปรี้ยว กางเกงเดฟเท่ห์ๆ หรือส่วนประกอบอิ่นๆของชุดที่มีลูกไม้นิดๆแซมเข้ามา อาจหาเครื่องประดับที่ไม่จำเป็นต้องเป็นสีทหาร มาเบรกไม่ให้คุณดูแมนเกินไป เอาเป็นว่านำมาผสมกับชุดที่คุณมี แบบไม่ต้องมีหลักการอะไรมาก ก็จะได้ทหารสาวในแบบที่คุณเป็น หนึ่งเดียวในโลกค่า นี่ล่ะการ Creat your personal Brand 

Trend แรกที่ติ๊กจะมา update เพื่อให้คุณ เป็นสาว Trendy กัน ได้แก่ 

กางเกงยีนส์ขาดๆแบบเซอร์ๆ

ใครเหมาะกับแฟชั่นนี้ ?

คำตอบคือ ทุกคนที่มั่นพอค่ะ  คุณไม่จำเป็นต้องไปหาซื้อยีนส์ตัวใหม่ ให้เปลืองเงินในกระเป๋า ลองไปค้นหายีนเก่าๆที่คุณเบื่อแล้ว มาลองตัดขาดๆแบบไม่ตั้งใจดู ถ้าอยากให้เซ็กซี่ ก็ทำให้มันมีส่วนโชว์บริเวณต้นขาสูงที่สุดเท่าที่จะทำได้ สาวก้านยาว หุ่นนางแบบ ขาเรียวเล็กได้เปรียบไป เพราะใส่ยังไงก็สวย ส่วนสาวขาใหญ่ลองหายีนส์สีเข้มหรือสีดำดูนะคะ แล้วก็อย่าให้มันขาดหรือเผยผิวอันอวบอัดของคุณมากนัก ก็เป็นอันเสร็จพิธี และที่สำคัญขอเป็นทรงเดฟได้จะเริ่ดมากเพราะกำลังมาแรงในตอนนี้ ถ้าท่อนล่างเซอร์แล้ว ท่อนบนอาจเป็นเสื้อคุณหนูเรียบหรูหน่อยไม่ว่ากัน จะได้มาช่วยเบรกไม่ให้คุณเป็นสาวเซอร์จนเกินพิกัด ว่าแล้ว ไปค้นตู้เสื่อหายีนเก่ามาตัดกันดีกว่า จะได้ไม่ตกเทรนด์ 

ขอบคุณข้อมูลและภาพสวยๆจาก Women.Sanook.Com

การเตรียมเสื้อผ้าถ่ายรูป Pre-Wedding: ตอนที่ 7

วันนี้ติ๊กมี Tips ดีๆสำหรับสาวๆที่กำลังจะแต่งงานและถ่าย Pre-Wedding โดยใช้ประสบการณ์ส่วนตัว มาเล่าเผื่อจะเป็นแนวทางในการเตรียมตัว สำหรับว่าี่เจ้าสาวกัน...
             
             วิเคราะห์วิจารณ์ชุดตัวเองให้ดูเพื่อเป็นแนวทาง ดังนี้จ้า
ชุดที่ 9 : ปิดท้าย ท้ายสุด ด้วยชุดที่ดับอนาถอย่างแรงของเรา ถึงแม้สีจะสวยสดใสโดนใจ แต่่แบบที่เน้นจุดด้อย ปิดจุดดีของเรานี่สิ ก็จะอะไรซะอีกนอกจาก ต้นแขนอันใหญ่บะรึ่มของช้าน แถมด้วยผมเกล้าแสนจะสูงอายุแถมมีแซมผมสีประหลาดให้อีก สงสัยทั้งช่างผม ช่างภาพคงเหนื่อยล้าเกินจะครีเอทไหว เฮ้อ จัดไป 4/10 

การเตรียมเสื้อผ้าถ่ายรูป Pre-Wedding: ตอนที่ 6

วันนี้ติ๊กมี Tips ดีๆสำหรับสาวๆที่กำลังจะแต่งงานและถ่าย Pre-Wedding โดยใช้ประสบการณ์ส่วนตัว มาเล่าเผื่อจะเป็นแนวทางในการเตรียมตัว สำหรับว่าี่เจ้าสาวกัน...
             
             วิเคราะห์วิจารณ์ชุดตัวเองให้ดูเพื่อเป็นแนวทาง ดังนี้จ้า
ชุดที่ 8 :  ชุดรองสุดท้ายก่อนที่จะกลับไปถ่ายรูปในสตุอีกครั้ง ชุดเจ้าสาวชุดนี้เป็นอะไรที่ Love มากเพราะเป็นชุดหน้าสั้น 
หลังยาว แบบเปรี้ยวเฉี่ยวที่เป็นตัวเรา แต่ด้วยความที่ไม่อยากให้ชุดมันดูขาวซีดเกินไป จึงขอใช้ไอเดียเติมสีแดงแรงฤทธิ์ ที่เป็นสีโปรด ช่วยเบรคชุดให้ดูเปรี้ยวเข้าไปอีก พร็อพทุกอย่างเนี่ย อะฮั้นเตรียมมาเองนะฮะ จะบอกว่าทีมงานสบายขึ้นเยอะ เจงๆ
ชอบสุดๆอีกเหมือนกันสำหรับชุดนี้ แต่กว่าจะได้ภาพสวยๆขนาดนี้ ต้องหลบคนเดินขึ้นลงบรรไดตลอด ให้คะแนนความตั้งใจเอาไปเลย 10/10 

 การเตรียมเสื้อผ้าถ่ายรูป Pre-Wedding: ตอนที่ 5

วันนี้ติ๊กมี Tips ดีๆสำหรับสาวๆที่กำลังจะแต่งงานและถ่าย Pre-Wedding ตอนที5โดยใช้ประสบการณ์ส่วนตัว มาเล่าเผื่อจะเป็นแนวทางในการเตรียมตัว สำหรับว่าี่เจ้าสาวกัน...
               
             วิเคราะห์วิจารณ์ชุดตัวเองให้ดูเพื่อเป็นแนวทาง  ดังนี้จ้า
ชุดที่ 7 : ชุดนี้เป็นชุดแต่งงานสั้นที่ใช้ของทางร้านค่ะ ถ่ายหลังจากกลับมาจากการถ่ายรูปนอกสถานที่ ที่ดับเพลิงบางรัก ทุกอย่างดุเหมือนจะโอหมด ยกเว้น ทรงผมนี่สิ ที่ดู้หมือนทรงนางงามมาก ไม่ได้เข้ากะชุดเล๊ย ให้ตาย ถึงแม้จะแต่งหน้าได้สวยขนาดไหน ก็จัดไปได้แค่คะแนน 8/10 คราวหน้าขอผมสั้นเกลียวเบาๆพอประมาณ น่าจไปรอดกว่านะจ๊ะติ๊ก (แต่คุณผู้ชายหล่อไปนะหมั่นไส้)

การเตรียมเสื้อผ้าถ่ายรูป Pre-Wedding : ตอนที่ 4

วันนี้ติ๊กมี Tips ดีๆสำหรับสาวๆที่กำลังจะแต่งงานและถ่าย Pre-Wedding ตอนที่ 4 โดยใช้ประสบการณ์ส่วนตัว มาเล่าเผื่อจะเป็นแนวทางในการเตรียมตัว สำหรับว่าี่เจ้าสาวกัน...
             
             วิเคราะห์วิจารณ์ชุดตัวเองให้ดูเพื่อเป็นแนวทาง  ดังนี้จ้า
ชุดที่ 6 : ชุดนี้เตรียมมาเองอีกแล้วครับท่าน เป็น theme สบายๆปล่อยผมโมฮ็อกออกสยายเบาๆ ก็จะได้ทรงมาดามพุชชี่ละ กระโปรงยาวลากพื้นที่อิฉันโปรด กับเสื้อกล้ามสีขาว อาจดูเรียบไป ดีที่ฉุกคิดได้ว่าถ้ามีสร้อยสีสดซักเส้น ชุดนี้คงดูมีอะไร สุดท้ายก็ลงเอยที่สร้อยตุ้มแบบชาวเขาเส้นนี้ ที่เก๋มว๊ากก แต่งหน้าหวานๆเบาๆ เอาไป 10/10

การเตรียมเสื้อผ้าถ่ายรูป Pre-Wedding : ตอนที่ 3

วันนี้ติ๊กมี Tips ดีๆสำหรับสาวๆที่กำลังจะแต่งงานและถ่าย Pre-Wedding ตอนที่ 3 โดยใช้ประสบการณ์ส่วนตัว มาเล่าเผื่อจะเป็นแนวทางในการเตรียมตัว สำหรับว่าี่เจ้าสาวกัน...
               
             วิเคราะห์วิจารณ์ชุดตัวเองให้ดูเพื่อเป็นแนวทาง ดังนี้จ้า

ชุดที่ 5 : ชุดนี้เป็นอีกชุดที่ชอบมากที่สุดของติ๊กเพราะเตรียมมาเองหมดเช่นเดียวกัน ทุกสิ่งอย่าง Perfect มาก จับคู่สีชมพูเหลืองได้อย่าลงตัวเป๊ะ มีอีก set ใส่ถุงน่องสีเหลืองด้วย ก็แนวไปอีกแบบ เสียอย่างเีดียวที่บางรูปใน set นี้ใส่แว่นดำถ่ายรูปแล้วไม่ค่อยสวย เพราะดวงตาน่าโชว์กว่า แถมทรงแว่นที่หามาดันไม่ค่อยเข้ากับรูปหน้าซักเท่าไหร่ เพิ่งมาค้นพบแว่นที่เกิดมาเพื่อชั้น ไม่นานมานี้เอง เสียดาย (แล้วไว้จะเล่าให้ฟังและแนะนำแนวทางการเลือกแว่นนะ) คะแนนรวม 10/10 ไปเลย 

การเตรียมเสื้อผ้าถ่ายรูป Pre-Wedding : ตอนที่ 2

วันนี้ติ๊กมี Tips ดีๆสำหรับสาวๆที่กำลังจะแต่งงานและถ่าย Pre-Wedding ตอนที่ 2 โดยใช้ประสบการณ์ส่วนตัว มาเล่าเผื่อจะเป็นแนวทางในการเตรียมตัว สำหรับว่าี่เจ้าสาวกัน...
              
             วิเคราะห์วิจารณ์ชุดตัวเองให้ดูเพื่อเป็นแนวทาง ตอนที่ 2 ดังนี้จ้า
ชุดที่ 4 : ชุดนี้ภูมิใจนำเสนอเพราะเป็นชุดที่ติ๊กเตรียมมาเองทุกอย่าง เป็นคนที่ชอบจัดชุดแบบคู่สีตัด แรงๆโดนๆแบบนี้แหละ ชั้นเลย แต่เสียดายที่มีเวลาเตรียมชุดน้อยไปนิด ถ้าจะให้ดีกว่านี้ กระโปรงควรเป็นแบบบาน เนื่องจากเราเป็นคนผอมไม่มีสะโพก ช่างภาพเลยช่วยด้วยการถ่ายแต่ด้านหน้า ข้อมือ adapt เอาสร้อยคอสีแดงมาพันรอบแทน ก็เก่ไปอีกแบบ ต้องชม stylist ด้วยนะ ที่ช่วยกันจับนู่นผสมนี่แบบที่เป็นตัวเรา ผมทรงโมฮ็อกเหมือนเดิมช็อบชอบ คะแนนรวม 10/10 เพราะสีแจ่มโดนใจ 

การเตรียมเสื้อผ้าถ่ายรูป Pre-Wedding : ตอนที่ 1

วันนี้ติ๊กมี Tips ดีๆสำหรับสาวๆที่กำลังจะแต่งงานและถ่าย Pre-Wedding โดยใช้ประสบการณ์ส่วนตัว มาเล่าเผื่อจะเป็นแนวทางในการเตรียมตัว สำหรับว่าี่เจ้าสาวกัน...
               ในการถ่ายรูปแต่งงานนั้น studio จะมี package ให้เลือกมากมายตั้งแต่ราคาถูกไม่กี่หมื่นบาทจนถึงราคาหลักแสน ส่วนชุดที่จะใช้ถ่ายนั้นอาจใช้ของที่ร้านหรือเตรียมมาเองส่วนตัวค่ะ โดยส่วนใหญ่ชุดแต่งงานก็จะใช้บริการเช่าจากทางร้่าน เซ็ทที่ติ๊กเลือก ถ่ายทั้งหมด 8 ชุด ถ่ายในสตูและนอกสถานที่อย่าละครึ่ง 
การเตรียมตัว ถ้าเป็นคนผมดำอาจต้องทำสีผมให้ดู soft ขึ้นมานิด และไว้ยาวเผื่อจะได้ทำได้หลายทรง ชุดชั้นในแบบไร้สายพอดีตัว หรือซิลิโคนแบบที่เป็นกาวปิดหน้าอก  กางเกงขาสั้นแนบเนื้อสีขาวกันโป๊ บำรุงผิวแบบขีดสุดทั้งหน้าและตัว คอนแท็คเลนส์ที่ใส่ประจำเช่น big eye ที่ใส่สบายไม่หลอกตา 
             วิเคราะห์วิจารณ์ชุดตัวเองให้ดูเพื่อเป็นแนวทางดังนี้จ้า
ชุดที่ 1 :  เน้นแบบสบายๆผมธรรมชาติแบบที่เป็นเราคือบ็อบสั้น ชุดนี้พลาดตรงที่ช่างแต่งหน้า ลงเมคอัพใหเราจัดเกินไปเพราะเผื่อให้ชุดถัดไปที่ต้องแต่งหน้าจัด เลยดูไม่ค่อยเข้ากัน สีเสื้อเชิ้ตซีดขาวนั้นไม่เหมาะกับเราที่เป็นคนผิวสองสีเป็นอย่างยิ่ง ทั้งๆที่หามาเองเพราะคิดว่าเชิ้ตขาวกับยีนเป็นอะไรที่ basic และพลาดน้อยที่สุด แต่ไงมันก็ไม่เหมาะกับเราอยู่ดี ทำให้ดูออกมาแล้วไม่สดใสเท่าที่ควร และเป็น set แรกในการถ่ายภาพเลยยังดูเกร็งๆด้วยกันทั้งคู่ แต่คุณผู้ชายเราให้เต็ม 10 นะ เพราะเป็นชุดที่ดูแล้วเหมาะกับเค้าที่สุด คะแนนรวมให้ 6/10 
ชุดที่ 2 : ช่างแต่งหน้าและทำผมซึ่งเป็นคนเดียวกัน เปลี่ยนเป็นทรงหยิกเกลียวแบบเกาหลี บอกตรงว่าตอนแรกไม่มั่นใจเลย พอเห็นทรงนี้ปุ๊บแทบจะขอแก้ทรง แต่ช่างภาพบอกให้ลองถ่ายรูปก่อนจะออกมาสวย เราก็เลยยอมเชื่อดู เออเนอะรูปออกมาก็ดูสดใสจริงๆ ชุดเจ้าสาวแบบเรียบชุดนี้มาลองล่วงหน้าก่อนวันจริงไม่กี่วัน คะแนนรวมให้ 10/10 

ชุดที่ 3 : ชุดนี้เป็นชุดแรกที่ถ่ายนอกสถานที่คือดับเพลิงบางรัก ที่เลือกสถานที่นี้เพราะถ่ายรูปออกมาแล้วสวยแนว เป็นสไตล์ที่เราชอบ(ทั้งที่สถานที่จริงแคบมากเป็นเหมือนแฟลตให้พนักงานของดับเพลิงบางรักพัก จึงไม่แปลกใจที่จะเห็นเสื้อผ้าตากอยู่หน้าห้อง ประหนึ่งอพาร์ทเม้นท์ไงงั้น) ที่สำคัญค่าเช่าสถานที่ไม่แพงคือ 1,000 บาทต่อวัน เคยไปลองหาที่อื่นที่เป็นแนวนี้แต่ค่าเช่าแพงมากเกือบ 10,000 บาทต่อวัน แม่เจ้า จะเป็นลม อ่ะ...กลับมาที่ชุด แปลกใจตัวเองว่าไมเป็นชุดขาวอีกแว๊ว ตูไม่ชอบไม่ใช่เหรอ คงเป็น concept เจ้าสาวไงที่ ไรๆก็ต้องสีขาว ชุดนี้ใช้ของทางร้าน theme ประมาณ มารีรีน มอนโรว ลมพัดกระโปรงเปิดพลิ้วไหวนิดๆ ชุดนี้คุณสามีชอบสุด แต่เราว่าก็งั้นๆ ชอบก็แต่ทรงผมโมฮ็อกนี่แหละ เรียกอีกชื่อ ทรงเกล้าแบบทันสมัย ที่ช่วยให้หน้ากลมๆของเราดูยาวขึ้น แบบชุดเก๋ แต่ใส่แล้วผอมไปหน่อย ชุดชั้นในใส่ไม่ได้ แปะแค่ซิลิโคนบางๆที่หน้าอก เพราะเป็นชุดเปิดหลังจึงห้ามเห็นส่วนเกินของชุดชั้นในเลย  ส่วนชุดคุณผู้ชายให้เต็ม 10 คะแนนรวม 9/10